- Arbitrage = การซื้อและขายในตลาดที่มีความสัมพันธ์กันเป็นจำนวนที่เท่ากันพร้อมๆกันเพื่อได้รับส่วนต่างระหว่างราคาในแต่ละตลาด
- Ask (Offer) Price = เป็นราคาที่ตลาดต้องการขายในสกุลเงินนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าราคาของคู่ USD/CHF เป็น 1.4532 ราคาAsk คือ 1.4532 หมายความว่าท่านต้องใช้เงิน 1.4532 Swiss francs เพื่อที่จะซื้อ 1 US dollar
- At or Better = เป็นการสั่งให้ซื้อหรือขายในราคาที่ต้องการหรือราคาที่ดีกว่านี้
- Bar Chart = ประเภทของกราฟซึ่งแสดง 4 ส่วนหลักคือ ราคาต่ำสุดและราคาสูงสุด แสดงด้วยเส้นแนวตั้ง และราคาเปิด และราคาปิดแสดงด้วยเส้นแนวนอนเส้นเล็กๆด้านซ้ายและขวา
- Bear Market = เป็นช่วงตลาดขาลง มีการอ่อนค่าของราคา
- Bid Price = เป็นราคาที่ตลาดต้องการซื้อในสกุลเงินนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าราคาของคู่ USD/CHF เป็น 1.4527/32 ราคา Ask คือ 1.4527 หมายความว่าเมื่อท่านขายเงิน 1 US dollar ท่านจะได้รับ 1.4527 Swiss francs
- Bid/Ask Spread = ส่วนต่างระหว่างราคา bid และราคา ask
- Book = เป็นประวัติสรุปออเดอร์ที่เคยทำรายการมากทั้งหมด
- Broker = เป็นบริษัทที่ทำหน้าที่เสมือนคนกลางระหว่างคนซื้อและคนขายเพื่อเก็บค่าธรรมเนียม
- Bull Market = เป็นช่วงตลาดขาขึ้น มีการแข็งค่าของราคาA market distinguished by rising prices.
- Bundesbank = ธนาคารกลางของประเทศเยอรมัน
- Candlestick Chart = กราฟแท่งเทียน
- Central Bank = เป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่ควบคุมนโยบายทางการเงินของประเทศ ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางของ ประเทศอเมริกาคือ Federal Reserve และธนาคารกลางของประเทศเยอรมันคือ Bundesbank
- Chartist = เป็นนักลงทุนที่วิเคราะห์แนวโน้มราคาจากกราฟเป็นหลัก , นักลงทุนทางเทคนิค
- Cleared Funds = เงินที่สามารถใช้ในการเปิดการซื้อขายได้
- Clearing = กระบวนการในการดำเนินการซื้อขาย
- Closed Position = การปิดรายการซื้อหรือขาย
- Collateral = หลักทรัพย์ประกัน
- Commission = ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากโบรกเกอร์
- Confirmation = เอกสารที่ยืนยันเงื่อนไขข้อตกลงในการซื้อขาย
- Contract = หน่วยมาตรฐานของการซื้อขาย
- Counter Currency = สกุลเงินที่เขียนเป็นลำดับที่สองในคู่สกุลเงิน
- Cross Currency Pairs = คู่สกุลเงินที่ไม่มี US dollar เช่น EUR/JPY หรือ GBP/CHF.
- Currency = เงินที่ออกโดยรัฐบาลหรือธนาคารกลางซึ่งใช้ในการซื้อขาย
- Currency Pair = คู่สกุลเงินที่ประกอบไปด้วย 2 สกุลเงิน ตัวอย่างเช่น EUR/USD
- Currency Risk = ความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงเรทของค่าเงินอย่างผันผวน
- Day Trader = นักลงทุนที่ทำการเปิดและปิดการซื้อขายภายในวันเดียว
- Dealer = เป็นบุคคลหรือบริษัทที่ทำการเปิดการซื้อขายกับอีกตลาดหนึ่งเพื่อที่จะได้รับกำไรจากค่า spread
- Deficit = การขาดทุน
- Depreciation = การลดค่าของสกุลเงิน
- Devaluation = การลดค่าเงินซึ่งประกาศโดยรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่
- EURO (ECU) = สกุลเงินยูโร European Monetary Union (EMU) ซึ่งมาแทนที่ European Currency Unit
- End Of Day Order (EOD) = รายการซื้อหรือขายตามราคาที่กำหนดไว้ รายการซื้อขายนี้จะเปิดไว้จนกระทั่งสิ้นสุดวันนั้นๆ โดยทั่วไปจะเป็นเวลา 5PM ET
- European Central Bank (ECB) = ธนาคารกลางของสหภาพยุโรป
- Forex, FX (Foreign Exchange Market) = การซื้อขายสกุลเงิน โดยการซื้อหนึ่งสกุลเงินและขายอีกสกุลเงินหนึ่งเป็นคู่
- Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) = หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการคุ้มครองการฝากเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา
- Federal Reserve = ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา (Fed)
- First In First Out = กฎที่รายการซื้อขายที่เปิดก่อนจะถูกปิดก่อนในกรณีที่มาร์จินไม่พอ (FIFO)
- Forward = สัญญาการซื้อขายล่วงหน้าในราคาและวันเวลาที่ได้ตกลงไว้
- Forward Points = จำนวน pip ที่เพิ่มหรือหักออกจากราคาปัจจุบันเพื่อที่จะคำนวณราคาล่วงหน้า
- Fundamental Analysis = การวิเคราะห์แนวโน้มราคาล่วงหน้าโดยการศึกษาสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก
- Good Til Cancelled Order (GTC) = การซื้อขายสินค้าในราคาที่กำหนดไว้ รายการจะยกเลิกเมื่อมีคำสั่งจากลูกค้าเท่านั้น
- Hedge = การเปิดรายการซื้อขายตรงข้ามกับรายการที่มีอยู่เพื่อลดความเสี่ยงลง
- Hit the bid = การยอมรับการขายที่ราคา bid
- Inflation = สภาพเศรษฐกิจที่ราคาของสินค้าได้เพิ่มสูงขึ้น ทำให้อำนาจการซื้อของประชาชนลดลง
- Initial Margin = เงินประกันเริ่มต้นที่ต้องใช้ในการเปิดการซื้อขาย
- Interbank Rates = อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างธนาคารต่างประเทศ
- Intervention = การแทรกแซงค่าเงินของธนาคารกลางเพื่อควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน
- Leading Indicators = ค่าสถิติที่ใช้คาดการณ์สภาวะทางเศรษฐกิจล่วงหน้า
- Leverage = เป็นอัตราส่วนเพื่อที่จะใช้คำนวณมาร์จินในการซื้อขาย
- Limit order = เป็นรายการซื้อขายที่ตั้งราคาไว้ล่วงหน้าว่าจะทำการซื้อขายที่ราคาเท่าไหร่ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในตลาดที่มีราคาขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
- Liquidation = การปิดรายการซื้อขายที่มีอยู่โดยใช้วิธี offsetting transaction
- Liquidity = ความสามารถในการรับการซื้อขายปริมาณมากๆโดยที่มีผลกระทบต่อราคาน้อยที่สุด
- Long position = รายการซื้อ รายการนี้จะได้กำไรเมื่อสินค้าที่เราทำรายการมีราคาสูงขึ้น
- Lot = หน่วยของสัญญาที่ใช้ในการเทรด
- Margin = จำนวนเงินประกันที่ใช้ในการเปิดออเดอร์
- Margin Call = การแจ้งเตือนจากโบรกเกอร์หรือดีลเลอร์เพื่อแจ้งว่ามาร์จินเหลือน้อยแล้ว
- Mark-to-Market = การคำนวณกำไรขาดทุนของรายการซื้อขายโดยให้สะท้อนกับราคาตลาดในปัจจุบัน
- Market Maker = ดีลเลอร์ที่ส่งราคา bid และ ask และพร้อมที่จะทำรายการซื้อขายในสินค้าต่างๆ
- Market Risk = ความเสี่ยงจากการขึ้นลงของตลาด
- Maturity = วันที่หมดสัญญาการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน
- Net Position = จำนวนรายการซื้อขายทั้งหมดโดยไม่มีการหักล้างรายการที่เปิดตรงข้ามกัน
- Offer (ask) = ราคาที่ดีลเลอร์ต้องการขาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่คำศัพท์ Ask (offer) price
- Offsetting transaction = การซื้อขายที่เปิดตรงกันข้ามกับรายการที่มีอยู่เพื่อลดความเสี่ยง
- Open order = ออเดอร์ที่ได้รับการประมวลผลเมื่อราคาได้มาถึงราคาที่มีการตั้งซื้อขายไว้ ซึ่งปกติก็จะเชื่อมโยงกับ Good ’til Cancelled Orders.
- Open position = เป็นรายการซื้อขายที่กำลังอยู่ในตลาด ยังไม่มีการคิดกำไรขาดทุนจนกว่าจะปิดรายการ
- Order = การสั่งการซื้อขายตามที่ได้ตั้งราคาไว้
- Over the Counter (OTC) = เป็นการอธิบายถึงรายการซื้อขายที่เกิดขึ้นนอกตลาด
- Overnight Position = การซื้อขายที่เปิดข้ามวัน
- Pips = หน่วยทีเล็กที่สุดของราคาของคู่สกุลเงิน ตัวอย่างเช่น คู่สกุลเงิน EURUSD 1 pip จะเท่ากับ 0.0001 ซึ่งอาจจะเรียกว่า Point ก็ได้
- Political Risk = การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลที่จะมีผลอย่างมากต่อรายการซื้อขายของนักลงทุน
- Position = รายการซื้อขายสุทธิของสกุลเงินนั้นๆ
- Premium = จำนวนที่ราคาของ forward หรือ future เกินไปจากราคา spot
- Price Transparency = การแสดงราคาให้กับนักลงทุนทุกคนเพื่อความเท่าเทียมกันในการซื้อขาย
- Profit /Loss or “P/L” or Gain/Loss = ยอดกำไรหรือขาดทุนจากรายการซื้อขายทั้งหมด (รายการที่ได้ทำการปิดเรียบร้อยแล้วบวกหรือลบด้วยยอดกำไรขาดทุนของรายการที่ยังเปิดค้างอยู่)
- Quote = ราคาตลาดที่แสดงเพื่อทำการซื้อขาย
- Rally = การเพิ่มขึ้นของราคาหลังจากราคาได้ตกลงมาเป็นเวลาช่วงหนึ่ง
- Range = ส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่งๆ
- Rate = อัตราส่วนของราคาในสกุลเงินหนึ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหนึ่ง
- Resistance Levels = แนวต้าน ตรงกันข้ามกับแนวรับ (Support)
- Revaluation = การเพิ่มขึ้นของค่าเงินอันเนื่องมาจากการแทรกแซงของธนาคารกลาง ตรงข้ามกับ Devaluation.
- Risk = ความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ไม่แน่นอน
- Risk Management = การวิเคราะห์และใช้เทคนิคการเทรดในการลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น
- Roll-Over = กระบวนการในการซื้อขายที่มีการทิ้งไว้ข้ามวัน ซึ่งกระบวนการนี้ก็จะมีค่าใช้จ่าย(หรือรายได้)จากส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่าง 2 สกุลเงิน
- Round trip = การซื้อและขายในสกุลเงินหนึ่งๆ
- Short Position = เป็นรายการซื้อขายที่จะได้กำไรเมื่อราคาของสินค้านั้นๆตกลงมา
- Spot Price = ราคาตลาดปัจจุบัน
- Spread = ส่วนต่างของราคา bid และ offer
- Square = การที่มีรายการซื้อและรายการขายที่หักล้างกันทั้งหมด
- Stop Loss Order (SL) = เป็นออเดอร์ที่มีการตั้งจุดขาดทุนไว้เพื่อที่จะจำกัดความเสี่ยงในกรณีที่ราคาไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนวิเคราะห์ไว้
- Support Levels = เป็นแนวรับที่ตรงข้ามกับแนวต้าน (Resistance) แนวรับนี้จะเป็นแนวที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะทำการซื้อ
- Swap = ดอกเบี้ย swap เป็นดอกเบี้ยที่เราจะได้หรือเสียไปเมื่อเราทำการเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ข้ามคืน
- Take Profit (TP) = การตั้งจุดปิดราคาที่มีกำไรเอาไว้
- Technical Analysis = การวิเคราะห์แนวโน้มโดยใช้ข้อมูลตลาดย้อนหลัง เช่น ราคา, ปริมาณซื้อขาย, ดอกเบี้ย และอื่นๆ
- Tick = การเปลี่ยนแปลงของราคาขึ้นลงในแต่ละครั้ง
- Transaction Cost = ต้นทุนในการทำรายการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน
- Transaction Date = วันที่ทำรายการซื้อขาย
- Turnover = จำนวนเงินทั้งหมดที่ทำรายการซื้อขายไปในช่วงเวลาหนึ่งๆ
- Two-Way Price = การแสดงราคา bid และ offer
- Unrealized Gain/Loss = ยอดกำไรขาดทุนสำหรับรายการซื้อขายที่ยังไม่ได้ปิดในขณะนั้น ถ้ารายการซื้อขายนั้นปิดแล้วก็จะเป็นกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง
- Value Date = วันที่ตกลงทำสัญญาซื้อขาย ตัวอย่างเช่น ในตลาด spot value date คืออีก 2 วันถัดไป หรืออาจจะเรียกว่า maturity date ก็ได้
- Variation Margin = เงินประกันที่ทางโบรกเกอร์ให้สำรองไว้เมื่อทำการซื้อขาย
- Volatility (Vol) = การวัดสถิติความเคลื่อนไหวของราคาในเวลาหนึ่งๆ
- Whipsaw = เป็นรูปแบบราคาที่ขึ้นไปอย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นก็ตกลงมาเร็วเช่นกัน
ศัพท์ที่ใช้ประจำในตลาด Forex
